วันพฤหัสบดีที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2562

[EP.5] กลืนน้ำแร่ (รังสีไอโอดีน-131) รักษามะเร็งไทรอยด์

ฮัลโหลทุกคนนนน แป้งๆ กลับมาแล้ว วันนี้จะมาเขียนเรื่องที่ว่าแป้งไปเข้ารับการรักษามะเร็งไทรอยด์ด้วยการกลืนน้ำแร่ (รังสีไอโอดีน-131) ที่ รพ. มหาราชนครเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 5-7 มิ.ย.62 ที่ผ่านมา

ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนจะเข้ารับการรักษา คือ

1) งดยาไทรอยด์ 1 เดือน

2) งดอาหารและยาน้ำที่มีไอโอดีนสูง 2 สัปดาห์ ก่อนทำการรักษา เช่น อาหารทะเล อาหารเค็ม(ที่มีโซเดียมสูงๆ) อาหารหมักดอง น้ำอัดลม น้ำสมุนไพร น้ำชาหรือจำพวกคาเฟอีน 

3) หลีกเลี่ยงไม่ให้ประจำเดือนมาช่วงที่ทำการรักษา หากประจำเดือนใกล้มาช่วงนั้น ให้คำนวนวันแล้วทานยาเลื่อนประจำเดือน (เพราะอะไร? มันมีเหตุผลจ้า เพราะรังสีที่เราได้รับเข้าไป จะถูกขับออกมาทางปัสสาวะ อุจจาระ รวมถึงประจำเดือน ซึ่งรังสีปนออกมาร่วมกับประจำเดือนนั้น จะทำให้รังสีสลายตัวยากหรือกำจัดยากนั่นเองค่ะ)


ถามว่า “ ทำไมถึงต้องงดยาไทรอยด์ และคุมอาหาร ”
คำตอบ : เนื่องจากต้องการให้ร่างกายและต่อมไทรอยด์ที่หลงเหลืออยู่ มีความหิวไอโอดีนแบบขั้นสุด เพื่อที่เรารับน้ำแร่รังสีไอโอดีน-131 เข้าไป มันจะไปจับกับต่อมไทรอยด์ที่เหลือ และรวมถึงทำลายเชื้อมะเร็งที่มีในร่างกายเราด้วย (ปล. เนื่องจากการผ่าตัดมะเร็งไทรอยด์ คุณหมอจะตัดไทรอยด์ออกไม่หมดอยู่แล้ว เพราะไม่อยากให้กระทบกับพาราไทรอยด์รวมถึงกล่องเสียง คนไข้ทุกคนจึงต้องเข้ารับการรักษาด้วยวิธีนี้ค่ะ) 

ถามว่า “ ผลข้างเคียงของการกลืนน้ำแร่รังสีไอโอดีน-131 มีไหม ”
คำตอบ : มีนะ ก็แล้วแต่ร่างกายแต่ละคน แป้งจะตอบในส่วนของแป้งนะ หลังจากกลืนแล้วจะมีอาการเจ็บต่อมน้ำลายนิดหน่อย ไม่มีอาการเวียนหัว หรือคลื่นไส้แต่อย่างใด


ต่อไปจะมาพูดถึงตอนที่อยู่หอผู้ป่วย

- วันที่ 5 มิ.ย.62 - 
ก่อนจะแอดมิดที่หอผู้ป่วย ตอนเช้าๆเลย จะมีเจาะเลือดกับตรวจปัสสาวะก่อน โดยคืนก่อนมาต้องงดข้าว งดน้ำหลัง 20.00 น. (แต่ก็พอจิบน้ำได้บ้างเล็กน้อย เพื่อจะได้ทราบค่าไทรอยด์ที่ชัดเจนงี้) จากนั้นก็ไปติดต่อทำเรื่องแอดมิดที่อาคารศรีพัฒน์ชั้น 9 แต่ผลเลือดยังไม่ออกเลยไปกินข้าวก่อน ซึ่งก็ห่อมาเอง ตีว่าเป็นทานมื้อเที่ยงละกัน แล้วก็กลับไปที่อาคารศรีพัฒน์ชั้น 9 อีกทีเพื่อรับทราบว่าผลเลือดมาละนะ เหมือนพี่พยาบาลจะให้ใบนำทางมา แล้วก็ให้ไปติดต่อที่หอผู้ป่วยโรคปอด (ฟังดูน่ากลัว) จะเป็นอาคารเก่าๆนิดนึง ของสวนดอก (รพ.มหาราชนครเชียงใหม่) การนอนรักษาที่นี้จะเป็นแยกห้องหมดเลย แป้งได้อยู่คนเดียวนะ ห้ามญาติเข้าเยี่ยมเพราะเรากำลังเป็นก็อตซิล่า แฮร่! 😂 เพราะในตัวเราจะมีรังสีซึ่งเป็นอันตรายต่อคนรอบข้าง 

พอถึงหอผู้ป่วยพี่พยาบาลก็จะซักประวัติบลาๆ มีให้มะขามเปรี้ยวกับเกลือให้ แต่ต้องจ่าย 20 บาท ก่อนขึ้นห้องผู้ป่วยก็จะให้ฟังการปฏิบัติตัวเวลาอยู่ในห้องพักผู้ป่วย มีบททดสอบก่อน-หลังที่ฟังงี้ ว่าเราเข้าใจจริงๆ ในกระเป๋าเสื้อผ้ามีเสื้อผ้าของใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น ของกินก็แอบเอาเข้าไปนิดนึง (อินทผาลัม/มะนาวฝานบางๆแช่เกลือสินเธาน์) เพราะรู้แล้วว่าอาหารไม่ถูกปากแน่ๆ พอเข้าห้องก็เปลี่ยนเสื้อผ้า รอจนถึงบ่ายๆ คุณหมอรังสีจะเข้ามาอธิบายการกินน้ำแร่รังสีก่อน จากนั้นก็แยกย้ายไปห้องแต่ละคน คุณหมอจะพูดออกไมค์ แล้วให้ผู้ป่วยกินแร่รังสีพร้อมกัน (รังสีไอโอดีน-131 ที่กินไปจะเป็นแคปซูลค่ะ) กินไป 1 เม็ด ปริมาณ 150 mCi จากนั้นจะต้องอยู่แต่บนเตียงห้ามย้ายตัวไปไหนนอกจากเราปวดฉี่กับปวดอึ ข้างๆหัวเตียงจะมีขวดน้ำให้ เกือบ 20 ขวดได้ ต้องค่อยๆจิบทั้งวันเพื่อขับรังสี อ้อ! ห้องที่พักมีทั้งแอร์และพัดลมนะ มีทีวี แต่ทีวีไม่ดี 5555 

ความบวมนี้ เกิดจากภาวะพร่องฮอร์โมน หรือเรียกว่าไฮโปไทรอยด์นะคะ


ข้าวเย็นมื้อแรกของวันนี้เป็นข้าว ข้าวเปล่า กับ หมูผัดจืดๆ จืดมาก! ก็จับยัดไปก่อน เลือกไม่ได้ ฮ่าๆๆ ดีเป็นคนกินง่ายนะ ขอบคุณพระเจ้าที่ให้แป้งไม่เลือกกิน เย้! หน้าตามันไม่น่ากินเลย แต่เราต้องกินเพื่ออยู่!


หลังจากกินข้าวก็อาบน้ำ อาบนานเลย ยืนฟินแช่น้ำอุ่นไป ฮ่าๆๆ แล้วก็เปลี่ยนชุดที่ รพ. เตรียมไว้ให้ ส่วนในห้องอ่ะ จะมีกล้องวงจรปิดด้วย เหมือนโดนจับผิด 😂 แต่เพื่อที่เราจะไม่ขยับตัวไปไหนเยอะ พยาบาลที่เฝ้าด้านนอกเค้าจะคอยดูอยู่ วันแรกแอบโดนดุให้อยู่กับที่ด้วย เพราะหัวเตียงมันไม่มีปลั้กอ่ะ เลยต้องเอามือถือไปชาร์ตปลายเตียงที่มีทีวี ซึ่งมันต้องลุกๆบ่อยๆ แฮร่! พี่พยาบาลก็จะพูดผ่านเครื่อง calling ที่มีในห้องอ่ะแหละ ว่าให้อยู่บนเตียงนะ ไม่เดินไปเรื่อยเยอะนะงี้ ตล๊ก!
คืนแรกนอนไม่หลับอ่ะ ต่างที่ด้วยหนาวด้วย แต่ไม่กล้าขอผ้าห่มเพิ่ม ลุกไปฉี่ทั้งคืนอีก แต่ก็ผ่านมาได้ไป 1 วันของการกลืนแร่จ้า เย้!


- วันที่ 6 มิ.ย.62 -
เช้ามาก็จะมีพี่พยาบาลคอลลิ่งมาหา ถามว่าฉี่ไปกี่ครั้ง อึไปกี่ครั้ง ดีนะที่นี่จดไว้หมด ไม่รู้ทำไมอ่ะ คืออยากเก็บสถิติตัวเองหรอ? ฮ่าๆๆ กันเค้าถามไง คิดมาก่อนล่วงหน้าแบบไม่มีใครบอกมาก่อนเหมือนกัน เขาจะเน้นให้เราอาบน้ำสระผมทุกเช้าเย็น เพราะรังสีจะขับออกมาทางเหงื่อด้วยงี้ ส่วนเรื่องอาหาร จะมีผู้ช่วยพยาบาลเอามาให้ตรงตะกร้าใกล้ๆประตูห้อง มื้อเช้าวันนี้ ข้าวเหนียว หมูทอด ไข่ต้ม เอ่ะ! ข้าวเหนียว ย่อยยากเด้อ นี่ก็กินแต่กับเอา 🥺



จิบน้ำไปทั้งวัน ไม่มีอะไรทำนอกจากอยู่บนเตียงเท่านั้น เล่นมือถือจนเบื่อไปเลยอ่ะ แล้ววันนี้เริ่มมีผลข้างเคียงหลังจากที่กินแร่รังสีไปเมื่อวานคือต่อมน้ำลายจะบวมหน่อย ก็เลยกินมะขามเพื่อกระตุ้นน้ำลาย โอ้โหวว นึกถึงตอนที่เราอยากกินอะไรแซ่บๆ แล้วน้ำลายแตกในปากคือความรู้สึกแบบนั้นเลยจ้า เหมือนจะทรมาน แต่มันก็สนุกดี 🤣 ตล๊กอีกละ! 

ข้ามไปที่มื้อเที่ยงกันเลยเนาะ มื้อเที่ยงวันนี้คือ เส้นหมี่ขาวผัดใส่ผักจืดๆ กับไข่ต้ม ดีที่เขาให้ออกไปเอาซอสหน้าห้องได้ เอามาจิ้มกับไข่ต้ม ค่อยยังชั่วเด้อ 


ข้ามไปที่มื้อเย็นเลยแล้วกัน ฮ่าๆๆ เพราะไม่มีอะไรเด่นเท่าอาหารแต่ละมื้ออีกแล้วล่ะ มื้อเย็นวันนี้คือ ข้าวผัดจืดๆ ละอ่อนหน้อย 🤔 งึมๆ ไม่เลวร้ายอะไร ทำใจกินเพื่ออยู่สู้จ้า เย้!


ตอนนี้ดื่มน้ำเปล่าจนลิ้นเปื่อย ไม่สามารถรับรสชาติอย่างอื่นได้แล้วอ่ะ แล้วก็การรับรสของแป้งก็แอบต่างไปจากเดิมเล็กน้อยด้วย ก่อนนอนคืนนี้นอนเปิดเพลงบรรเลงกล่อมตัวเองยาวๆ ไปจ้า


- วันที่ 7 มิ.ย.62 -
เช้าวันสุดท้ายของการอยู่หอผู้ป่วยก็มาจ้า โคตรดีใจ เพราะเหงาจับใจมาก แอแง้! 😭 เชื่อเราเถอะ เรากินน้ำจนหมดที่เขาเตรียมไว้ให้ด้วยความที่อยากให้รังสีออกจากร่างกายให้มากที่สุด อ้อ! คืนเมื่อวานพยาบาลบอกให้กินยาระบายไปเม็ดนึง เช้าวันนี้มา อึก็ค่อยๆลำเลียงออก ฮ่าๆๆๆ ดีที่ไม่ปวดบิดทรมาน เช้านี้เป็น ไข่เจียวจืด กับ ไข่ต้ม อร่อยที่สุดแล้วเท่าที่กินมา ฮ่าๆๆๆๆ 


ถาดหลุม ช้อน แก้วน้ำดื่ม ต้องล้างเอง เขาจะมีสก็อตไบร์ทกับน้ำยาล้างจานไว้ให้ ลืมบอกไป หลังจากออกจากห้องน้ำต้องฟอกสบู่ล้างมือทุกครั้ง ฟอกจนเปื่อยจ้าเพราะเข้าห้องน้ำถี่มาก 🤣

จริงๆ มีมื้อเที่ยงด้วยแต่ไม่ได้ถ่ายไว้ เพราะกินไม่ลงแล้ว ท้องอิ่มเฉย เพราะอยากกลับบ้าน 5555 ก่อนกลับคุณหมอรังสีจะพูดออกไมค์ให้ออกมาวัดรังสีบริเวณลานหน้าห้องพักทีละคน จะมีเครื่องอะไรไม่รู้ จะมีระยะให้เรายืนเป็นระยะ ค่อยๆขยับเข้าใกล้เครื่อง เสียงดังติ้ดๆ เหมือนตรวจจับระเบิด แล้วคุณหมอรังสีก็บอกให้หยุดยืนตรงระยะ 1 เมตร จากนั้นก็กลับเข้าห้องเตรียมเปลี่ยนเสื้อผ้ารอพี่พยาบาลคอลลิ่งมาที่ห้องว่าให้ออกจากห้องได้

หลังจากนั้นทาง รพ. จะนัดให้กลับมา Whole Body Scan เมื่อครบ 7 วันหลังจากกลืนแร่ไป ก็คือวันที่ 11 มิ.ย.62 
โดยก่อนกลับ รังสีที่ยังคงค้างในร่างกายแป้งเหลือที่ 15.9 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย (เกณฑ์คือ < 70) 

วิธีปฏิบัติตัวหลังจากกลืนแร่รังสีไอโอดีน-131 (เมื่อกลับมาบ้าน)

1) แยกห้องนอน 5 วัน ปกติแป้งนอนแยกนอนคนเดียวอยู่แล้ว
2) หยุดงานอย่างน้อย 3 วัน ตามความเห็นของแพทย์
3) เลี่ยงการอยู่ใกล้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี และหญิงมีครรภ์ 2 สัปดาห์
4) ควรงดการมีเพศสัมพันธ์ใน 2 สัปดาห์แรกหลังการรักษา และต้องคุมกำเนิดอย่างน้อย 2 ปี หรือถ้าต้องการมีบุตรเร็วกว่านี้ต้องปรึกษาแพทย์
5) แยกจานชาม เสื้อผ้า จากคนในครอบครัวเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ซึ่งแป้งจะซื้อชุดจานชามกระดาษมาใช้ ทานเสร็จก็ทิ้งแยกถุงขยะด้วย
6) ดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อช่วยขับรังสี 
7) กดชักโครกสัก 2 ครั้ง ต่อ การขับถ่าย 1 ครั้ง
8) งดออกกำลังหนัก หรือ ทำงานหนัก 1 สัปดาห์
9) พักผ่อนให้เพียงพอ ผ่อนคลาย

หลังจากนั้นจะมีการนัด Follow up อีก 6 เดือน นั่นก็คือเดือนธันวาคม
นัดเพื่อทำ Whole Body Scan เหมือนเดิม วิธีปฏิบัติก็เหมือนเดิม คือ งดยา 1 เดือน คุมอาหาร 2 สัปดาห์จ้า

ไว้จะมาเขียนต่ออีกนิดใน EP. ถัดไปนะคะ สำหรับใครที่ได้เข้ามาอ่านบทความนี้ มีคำถามหรือสงสัยตรงไหน อาจจะมีบางส่วนที่แป้งเขียนได้ไม่หมดเพราะก็แอบลืมไปบ้าง แหะๆ สามารถพูดคุยกันได้เลยนะคะ 

ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ ❤️






วันเสาร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2562

REVIEW : สวยครบ ด้วยงบหลักร้อย ❤️

ตามหัวข้อเลยจ้า “ สวยครบ ด้วยงบหลักร้อย ”

เครื่องสำอางทุกชิ้นที่แป้งใช้วันนี้ เรียกว่าราคาเอื้อมถึงทุกชิ้น 
เรียกว่า “ราคาถูกและดี”

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนค่ะว่า แป้งเป็นคนแต่งหน้าเบา ไม่ได้แต่งสวยงามมากมาย หรือมีเทคนิคอะไรขนาดนั้น และนี่แหละ เครื่องสำอางที่แป้งใช้วันนี้เอื้อต่อคนแบบแป้งสุดๆ ฮ่าๆๆ 
น้อยชิ้น แต่ได้ครบจ้า 😂


เครื่องสำอางทั้งหมดที่แป้งใช้เป็นของแบรนด์บูเต้ (Butaé) 
ถ้าถามว่าหาซื้อได้ที่ไหน ??
แป้งซื้อในออนไลน์ค่ะ ที่เว็บ Koriico (โครีโค่)

www.koriico.com

เริ่มต้นที่ตัวนี้เลยค่ะ รองพื้นเพื่อการปกปิด
 Coverage Foundation No.02 Pale Natural







เนื้อรองพื้นเกลี่ยง่าย ปกปิดดีเลยแหละ แต่แป้งจะลงรองพื้นไม่เยอะเท่าไหร่นะคะ เพราะไม่ชอบให้หนักผิว ส่วนสีของรองพื้นจะออกไปทางโทนเหลืองนะคะ 
(เหมาะกับผิวคนเอเชีย) ราคา 229 ฿



                                           ก่อนลงรองพื้น                                                             หลังลงรองพื้น
จากนั้นแป้งก็จะลงเป็นแป้งฝุ่นโปร่งแสงคุมมัน
Super Oil Control Loose Powder No.05 Smooth Nude





ผิวก็จะดูแมทขึ้น เนื้อแป้งเนียนละเอียด คุมมัน เป็นแป้งที่ไม่มีสี 
ดังนั้นจึงทำให้ผิวที่ได้จะยังคงเป็นผิวของเราอยู่ ตัวนี้ราคา 109 ฿ 









จากนั้นแป้งจะลงด้วยแป้งจะลงแป้งผสมรองพื้นคุมมัน
Super Oil Control Powder No.01 Pale Natural





จะลงเฉพาะบริเวณ T-Zone นะคะ 
ค่อยๆแทปบนผิวเบาๆ เดี๋ยวจะหนาไป 😆
ตัวนี้ราคาเบาที่สุดแล้ว ราคา 59 ฿


มาถึงขั้นตอนการเขียนคิ้วแล้วจ้า 
งานคิ้วแป้งใช้ ดินสอเขียนคิ้ว 3IN1 EYEBROW PENCIL PROFESSIONAL No.01 DARK BROWN


จะมี 3 หัว ใน 1 แท่ง (เรียงจากซ้ายมือ ไป ขวามือ)
- ด้านซ้าย เอาไว้แปรงขนคิ้ว
- ตรงกลาง เป็นเนื้อฝุ่น เอาไว้เติมให้ขนคิ้วให้เต็ม
- ด้านขวา เป็นดินสอเขียนคิ้วหัวตัด




ใช้สะดวกมาก การเลือกสีของดินสอเขียนคิ้วที่ดี คือเลือกให้ตรงตามสีผม หรือให้สีคิ้วอ่อนกว่าผมของเรานะคะ (ดูมีความรู้) 😂
ตัววนี้ราคา 195 ฿ 


เราจะมาแต่งตากับแก้มกันจ้า จะเละ หรือจะรอด 555555
เป็นลุคมั่วๆ ของแป้งนะ อย่าถือสาเลยจ้า

แป้งใช้บลัชออนแต่งทั้งตาและแก้มเลย เอาให้คุ้มจ้า
ตัวนี้ GRADIENT BRUSH ON.01 GOODLY
เป็นบลัชออนไล่สีค่ะ มีความแบ่งเลเยอร์ในการใช้เองไปอีก ฮ่าๆๆๆ
สีส้ม กับ สีส้มก่ำปนแดง




จะอธิบายไงดีล่ะ ฮ่าๆๆ แป้งก็ลงสีส้มก่อนเบาๆ จากนั้นก็ลงสีส้มก่ำปนแดงที่หางตา ไลท์ลงมาหางตาตรงขอบตาล่างด้วย 
ส่วนแก้มนั้น ก็ปัดๆ ตรงหน้าแก้มไปเลยแบบมั่วๆ 😬
ตัวนี้ราคา 149 ฿



ต่อไปงานปากกันบ้าง สีลิปสดแบบ ส๊ดด สด 💋
แป้งใช้ลิปจิ้มจุ่มเนื้อแมท Matte & Last Lip No.32 Maleficent
ดูจากชื่อลิปแล้วเหมือนเป็นนางพญามารมาก แต่สีเค้าสวยเน้อ
สีชัด ติดทน เนื้อนุ่มด้วย



แป้งจะไม่ทาแบบเต็มปากนะ เพราะอยากให้มันฟุ้งๆ เบลอๆ
ก็ใช้นิ้วเบลนๆ ตรงขอบปากเอาจ้า
ตัวนี้ราคา 99 ฿


Finish Look ที่ได้ กับการใช้เครื่องสำอางหลักร้อยของแป้งวันนี้
ยังพอไหวเนาะ 5555 แต่งออกมาตามฟิลลิ่ง และเสื้อผ้าในตู้


ปล. เป็นคนแต่งหน้าไม่เก่ง และไม่มีความครีเอต
แต่ถ้าผ่านมาเห็นแล้วชอบ ต้องขอบพระคุณอย่างมากมายจ้า ^^ 



วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2562

[EP.4] ในวันที่ฉันป่วย -- โลกของฉันกำลังเปลี่ยนไป




โดยปกติแล้ว แป้งเชื่อว่าคนเราทุกคนสามารถปรับตัว ปรับความคิด ปรับมุมมองของตัวเอง เพื่อที่จะช่วยฮีลความรู้สึกของตัวเองจากที่รู้สึกเฟลอยู่ให้กลับมาแฮปปี้ได้เหมือนเดิม บางคนอาจจะออกไปหาอะไรทำ หากิจกรรมทำ เช่น ออกไปช้อปปิ้ง ไปออกกำลัง ฯลฯ



....ซึ่งแป้งเคยทำมันได้ แต่ตอนนี้กลับทำไม่ได้....




ในหัวเต็มไปด้วยคำถามอะไรไม่รู้เต็มไปหมด


ลองย้อนกลับไปหลังจากแป้งได้รับการผ่าตัดครั้งที่ 2 ตอนนั้นแป้งยังไม่ได้เริ่มยาฮอร์โมนไทรอยด์ ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม 2562 จนถึง ต้นเดือนมีนาคม 2562 ซึ่งตามกระบวนการรักษาของแป้ง คุณหมอได้ให้แป้งทำการสแกนร่างกายก่อน หรือเรียกว่า Whole Body Scan เพื่อตรวจเช็คว่าหลังจากที่ผ่าตัดเอาไทรอยด์ทั้งหมดออกไปแล้ว ยังหลงเหลือไทรอยด์ กับมีการแพร่กระจายของเชื้อมะเร็งไปยังส่วนอื่นๆของร่างกายหรือไม่ โดยมีขั้นตอนก่อนการทำ Whole Body Scan ดังนี้
1) ต้องหยุดยาฮอร์โมนไทรอยด์ 1-2 เดือน (ซึ่งแป้งยังไม่ได้เริ่มยา)
2) งดอาหารจำพวกไอโอดีน อาหารทะเล ชา กาแฟ น้ำอัดลม เป็นเวลา 2 สัปดาห์


แป้งต้องดำเนินชีวิตโดยไม่ได้ทานยาฮอร์โมนไทรอยด์ประมาณ 2 เดือนได้ แป้งพยายามสังเกตตัวเองอยู่ตลอดว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงอะไรไหมนะ (?) เบื้องต้นทราบแต่ว่า จะหงุดหงิดง่าย... แค่นั้นเลย 😂 แต่มันมีอะไรมากกว่านั้นจ้า 

ช่วงนั้นเชียงใหม่อยู่ในช่วงอากาศที่หนาวเย็น อากาศดีเชียวแหละ แต่แป้งทนไม่ได้ ปกติขี้หนาวอยู่แล้ว ยิ่งหนาวเข้ากระดูกไปใหญ่ พันผ้าพันคอเป็นเอสกิโมไปทำงานเลยจ้า

ตอนนั้นคนรอบข้างเริ่มไม่ค่อยเข้าใกล้แป้ง หรือแป้งเองที่เฟดตัวเองออกมาจากคนรอบข้างกันนะ (?) แม้กระทั่งคนในครอบครัว แป้งก็ไม่ค่อยอยากพูดคุยด้วยเท่าไหร่ เพราะทุกครั้งที่เอ่ยปากพูด มันเหมือนมีปีศาจ 5555 พูดไม่ค่อยเข้าหูคนอื่น และคนอื่นก็พูดไม่ค่อยเข้าหูเราด้วย แป้งพยายามหาข้อมูลอ่านเองเพิ่มเติมเรื่องผลข้างเคียงของการไม่ได้ทานยาฮอร์โมนไทรอยด์ และพยายามเช็คอาการของตัวเองไปเรื่อยๆ 

จำได้ว่า...มีน้องที่ทำงานแผนกเดียวกันทักไลน์มาหา แล้วบอกกับแป้งว่า " เจ้..รู้ตัวไหมว่าเจ้ไม่เหมือนเดิม น้องเข้าหาเจ้ไม่ได้เลย เจ้ได้บอกใครไหมว่าเจ้จะเป็นแบบนี้ "
ไอ่เราก็บอกน้องไปว่า " เจ้บอกนะ แค่ไม่กี่คนที่รู้ ยังไงเจ้จะบอกกับทุกคนนะ 
"...ตอนนั้นไม่รู้ว่าใครโดนไปแล้วบ้าง แต่แป้งรู้ตัวตลอดว่าแป้งไม่ปกติแล้วล่ะ และต้องขอบคุณเพื่อนๆในแผนกมากๆ ที่อดทนกับแป้ง😢

ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนในที่ทำงาน ก็จะมีคำถามนี้จากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ว่า " ดีขึ้นรึยัง? " แป้งก็ได้แต่ยิ้มๆ แล้วตอบไปว่า ยังไม่หาย 100% เจ้า 😅 แต่รู้ไหม...แค่คำถามง่ายๆแบบนี้ แต่แป้งกลับตอบออกมาได้ลำบากใจที่สุด ไม่อยากได้ยินคำถามนี้ที่สุด ไม่อยากตอบที่สุด แล้วมันก็เป็นคำถามยอดฮิตของแป้งตอนนั้น 

ระหว่างวัน (ในเวลางาน) แป้งมักจะลอยบ่อยๆ เริ่มมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปกติถ้าแป้งปวดเมื่อยตามตัวจะให้คุณแม่ช่วยนวดให้ แต่คราวนี้นวดแล้วยิ่งระบม ยิ่งโอดโอย เป็นรอยช้ำไปหมด เวลานอนหลับตอนกลางคืนจะเป็นปัญหามากเพราะมักจะเป็นตะคริว ทุกอย่างรอบตัวเริ่มช้าลง ทำทุกอย่างช้าลงเพราะแป้งเริ่มไม่มีแรง แค่แปรงฟันตอนเช้ายังไม่มีแรงเลย ยกช้อนข้าวก็เหนื่อยแล้ว (ไม่ได้เว่อร์นะ แต่มันเป็นจริงๆ) ตัวแป้งเริ่มบวม น้ำหนักเริ่มขึ้น ทั้งๆ ที่แป้งทานข้าวปกติหรือจะเรียกได้ว่าช่วงนั้นเป็นภาวะไทรอยด์ต่ำ (Hypothyroidism) นี่คงเป็นรูปเดียวที่ถ่ายเก็บไว้ตอนบวม เหมือนกับอมอะไรไว้ในปากแต่เปล่าเลย แก้มบวมมาก 😖



พักหลังๆ แป้งต้องขอให้คุณพ่อขับรถไปส่งทำงานเพราะขาเริ่มไม่มีแรงแล้ว พอเลิกงานถึงบ้านปุ๊บแป้งจะหลับก่อนเลยเพราะมันรู้สึกเพลียมาก แป้งเริ่มขี้หลงขี้ลืม จนแฟนบอกว่าอีกหน่อยจะลืมเขาไหม ? 😂 นี่ก็บอกไปว่า ... มันหลงลืมแบบคุยเรื่องนี้อยู่แล้วก็ลืมแล้วมะกี้พูดอะไรไป ... ไม่ใช่ว่าจะลืมคนรอบข้าง หรือคนสำคัญสักหน่อย 💕

ปกติทุกคืนแป้งจะต้องคุยโทรศัพท์กับแฟนก่อนนอน แป้งจะบอกว่า เขาอดทนกับแป้งอย่างมาก เพราะแป้งจะบ่น เพ้อ งอแง ทั้งๆ คิดบอกตัวเองในใจเสมอว่า ไม่ว่าจะเจออะไรมาจะพยายามไม่พูดออกไป แต่ด้วย ณ อาการของโรค มันทำให้แป้งบังคับความคิดตัวเองไม่ได้

แป้งกลายเป็นคนนอนไม่หลับ ร้องไห้แทบทุกคืน เพราะเอาแต่โทษตัวเองว่า " เพราะเราป่วยแบบนี้ ทุกคนต้องมาเดือดร้อน " คิดว่าตัวเองกลายเป็นภาระของครอบครัวไปแล้ว แป้งสงสารคุณแม่มาก เพราะคุณแม่เป็นคนเดียวคอยดูแลแป้งอย่างอดทนที่สุด แต่แม่ก็ไม่เคยบ่นสักคำ มีแต่แป้งที่สร้างปัญหา แต่พี่ชายแป้งก็บอกกับแป้งว่า " ไม่ต้องคิดว่าตัวเองเป็นภาระหรอกนะ เพราะทุกคนในครอบครัวเต็มใจที่จะดูแลแป้ง " 

แป้งไม่รู้ว่า...ทำไมแป้งเอาแต่เศร้า หรือแป้งจะเข้าข่ายเป็นโรคซึมเศร้ารึเปล่านะ แป้งถึงกับไปหาแบบทดสอบเพื่อเช็คอาการของตัวเอง ซึ่งตอนนั้นมันมีเกณฑ์โอนเอียงไปทางด้านนั้นสูง ที่แป้งบอกว่า แป้งกลายเป็นคนนอนไม่หลับ สมองแป้งมักจะแล่นตลอดทั้งคืนโดยที่ไม่รู้ว่ามันคิดอะไรอยู่ มันคิดไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด จบที่การร้องไห้แล้วเพลียหลับไป หลับไปก็ฝันอะไรไม่รู้ทุกคืน เป็นความฝันที่น่ากลัวมาก

แป้งรู้อีกนะ ว่าทางเดียวที่จะช่วยให้แป้งดีขึ้นได้ คือการใช้เวลากับพระเจ้า ฟังเพลงนมัสการ อธิษฐาน อ่านไบเบิล แต่แป้งทำแล้วมันก็ไม่ช่วยเท่าที่ควร แป้งพยายามอย่างมากที่จะหลุดจากบ่วงความคิด ความรู้สึกเหล่านี้ แต่มันยากมากจริงๆ 
ปล. ขอบคุณสำหรับทุกๆ คำอธิษฐานจากพี่น้องในพระคริสต์นะคะ ที่คอย Support แป้งและครอบครัวเสมอ 💚

แล้วนี่ก็ผลของการขาดยาฮอร์โมนไทรอยด์ มันทำให้คุณภาพชีวิตลดลงจริงๆ ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ รวมถึงการเข้าสังคม แป้งไม่อยากพบเจอใครเลย แต่ก็อยู่คนเดียวไม่ได้ ยิ่งดึกยิ่งอยู่คนเดียวไม่ได้ แทบอยากจะลาออกจากการเป็นแป้งในร่างนี้สุดๆ


04-03-2562 :

แล้ววันนี้ก็มาถึงสักที แป้งมา รพ.มหาราชนครเชียใหม่แต่เช้าเพื่อทำการเจาะเลือดและตรวจปัสสาวะ จากนั้นก็ไปพบคุณหมอที่ห้องรังสี เพื่อทำการกลืนรังสีเพื่อนเตรียมตัวสแกนร่างกาย โดยหลังจากกลืนรังสีเสร็จ คุณหมอก็ให้กลับบ้านแล้วทานยาระบาย 2 เม็ด เพื่อกลับมาสแกนร่างกายในวันที่ 6

06-03-2562 :

มาแต่เช้าอีกเช่นเคย วันนี้ไปรออยู่ที่ห้อง CT สแกน เพื่อทำการ Whole Body Scan ทั้งหมดใช้เวลาในการสแกน 1 ชั่วโมงเต็มๆ ผลตรวจออกมาไม่พบการแพร่กระจายของเชื้อมะเร็งไปยังส่วนอื่นของร่างกาย และวันนี้แป้งจะได้เริ่มทานยาฮอร์โมนไทรอยด์แล้วจ้า ดีใจมากที่จะไม่เป็นปีศาจแล้ว ฮ่าๆๆๆ 😂 จากนั้นก็ไปพบคุณหมอที่ห้องรังสีอีกครั้งเพื่อทำการนัดกลืนแร่รังสีไอโอดีนเพื่อรักษาแบบจริงจังอีกครั้งใน วันที่ 5-7 มิถุนายน 2562



EP. นี้เขียนยืดยาวหน่อยนะคะ แต่หวังว่าเพื่อนๆจะอ่านกันจนจบนะ ฮิฮิ ตอนเขียนยังแอบน้ำตาซึมไปด้วยเลย ยังไงฝากติดตามเรื่องราวต่อจากนี้ต่อไป แล้วคอยเป็นกำลังใจให้แป้งต่อด้วยนะคะ




แล้วเจอกันใหม่ใน EP. หน้าจ้า ขอพระเจ้าอวยพระพร 💕








วันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2562

[EP.3] ในวันที่ฉันป่วย -- ครั้งเดียวไม่พอ...




เอาล่ะ... มาเจอกับแป้งใน EP.3 แล้วนะคะ แป้งไม่รู้ว่าจะเป็นอะไรที่เรียกว่า " พีค ใน พีค " ได้ไหมนะ? 😆 พอทราบผลตรวจแล้ว ลำดับต่อมาคือการคิดวางแผนต่อว่าจะเลือกวิธีไหนในการรักษา ซึ่งแป้งเองก็ปรึกษาคุณน้าที่เป็นพยาบาลและครอบครัวเป็นที่เรียบร้อย 

และแล้ว เช้าวันที่ 14 มกราคม 2562 แป้งก็กลับมาทำงานตามปกติ พร้อมกับรอยแผลที่มีกำหนดนัดตัดไหมในวันที่ 15 มกราคม 2562 แต่สิ่งที่แป้งทำก็คือ เบื้องต้นได้ส่งข้อความถึงคุณหมอว่าแป้งตัดสินใจแล้วว่าจะเข้ารับการผ่าตัดอีกครั้ง จากนั้นแป้งก็เดินเข้าไปหาคุณหมอเจ้าของไข้ แล้วทำการนัดหมายจองห้องผ่าตัด ทำเรื่อง Admit ในบ่ายวันที่ 15 มกราคม 2562 อีกครั้งหนึ่ง ไหนๆ ก็จะตัดไหมอยู่แล้ว ก็นอนให้หมอผ่าเอาไทรอยด์อีกข้างออกไปเลยดีกว่า ตัดไฟแต่ต้นลมงี้

พูดเหมือนง่ายเนาะ แต่ไม่เลย ทุกอย่างมันเร็วไปหมด แป้งก็ไม่ทันตั้งตัวเหมือนกัน แต่แป้งเชื่อว่า แป้งตัดสินใจดีแล้ว พระเจ้าอยู่กับแป้ง แป้งจะไม่กลัว 

เพราะจากพระธรรมอิสยาห์ 41 : 10 กล่าวว่า
" อย่ากลัวเลย เพราะเราอยู่กับเจ้า 
อย่าขยาด เพราะเราเป็นพระเจ้าของเจ้า 
เราหนุนกำลังเจ้า เออ เราจะช่วยเจ้า 
เออ เราจะชูเจ้าด้วยมือขวาอันมีชัยของเรา "


15-01-2562 :

แป้งเดินทางมารอ Admit ในเช้าวันนี้ที่ รพ.แมคคอร์มิค ได้คิวผ่าตัดเวลาประมาณ 16.00 น. แป้งเตรียมตัวเปลี่ยนชุดสีเขียวเพื่อเตรียมเข้าห้องผ่าตัดประมาณบ่ายสามโมง แต่ด้วยคุณหมอติดเคสด่วน เวลาจริงที่ทำการผ่าตัดของแป้งก็เกือบหกโมงเย็นแล้ว เวลายาวนานมาก และห้องผ่าตัดวันนี้หนาวเป็นพิเศษไปอีกจ้า นี่ขอผ้าห่มที่น้องพยาบาลมาคลุมเพิ่มอีก 2 ชั้น ไปอีก ฮ่าๆๆๆ หลับไปหลายตื่นกว่าคุณหมอจะมา ครั้งนี้เป็นการดมยาสลบ หมอวิสัญญีจะเอาอะไรไม่รู้มาอังที่หน้าเรา บอกให้ค่อยๆหายใจ สักแปปภาพตัด สลบสไลไม่ฝันแต่อย่างใด

หลังจากผ่าตัดเสร็จเวลาประมาณ 21.00 ปรากฎว่าแป้งลืมตาไม่ขึ้น ได้แต่พยักหน้าหงึกๆ จากนั้นก็กลับไปพักที่ห้อง มีคุณพ่อ คุณแม่ และก็แฟนที่อยู่รอ แต่นี่หลับ มึนๆ ได้ยินเสียงรอบข้างหมดแต่ลืมตาไม่ขึ้น ครั้งนี้แฟนอาสานอนเฝ้า เพราะครั้งก่อนคุณแม่มานอนเฝ้าแล้วท่านบ่นปวดหลัง พยาบาลที่วอร์ดบอกให้คุณพ่อซื้อโจ๊กมาเผื่อไว้ให้แป้งกินเพราะต้องกินยาหลังจากที่ฟื้น สรุปแป้งงัวเงียมาก ง่วงตลอดเวลา กว่าจะฟื้นมาจริงๆก็ 23.00 นู่นแล้ว แฟนเลยให้แป้งแต่จิบนมกล่องไปนิดนึงตามด้วยให้กินยาฆ่าเชื้อ "แลนคาฟ" เม็ดโต คือบาดคอมาก 
นางก็น่ารักนะ นั่งเฝ้าข้างเตียงตลอด แต่นี่ก็หลับ ฮ่าๆๆๆ นิสัยเนาะ เหมือนคนเป็นง่อยมาก ทั้งสายน้ำเกลือ ทั้งสายวัดความดัน จะเข้าห้องน้ำทีลุกเองไม่ได้ จะเรียกแฟนก็ไม่มีเสียงอีก เรียกหลายรอบมากกว่าเสียงจะออก เพราะปวดฉี่ 😖 เพิ่งรู้ว่าการใส่น้ำเกลือทำให้ฉี่ไม่สุดสักทีอ่ะ นั่งแช่ในห้องน้ำอย่างนาน 


16-01-2562 ​:

ตื่นมาก็กินข้าวได้อร่อยเหมือนเดิม ไม่รู้ทำไม 😝 คงเพราะเมื่อคืนไม่ได้กินอะไร ทั้งวันก็จะมีพยาบาลเข้ามาวัดไข้ วัดความดันให้ คุณหมอเข้ามาดูอาการตอนสายๆ บอกว่า ถ้าตอนวัดความดันแล้วมีอาการลงปลายนิ้วมือ ให้แจ้งที่พยาบาลได้เลยนะ แต่นี่ไม่มีอาการชาแต่อย่างใด เนื่องจากว่าในผู้ป่วยบางคนที่ผ่านการผ่าตัดไทรอยด์แล้วจะมีภาวะต่อมพาราไทรอยด์ทำงานน้อย เป็นผลให้ระดับแคลเซียมในเลือดต่ำ ทำให้มีอาการชาได้ ซึ่งในเคสของแป้งถือว่าโชคดีที่แคลเซียมยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่ต้องทานแคลเซียมเสริม แต่ก็ถือว่าพรุนไม่น้อย เพราะพี่พยาบาลเจาะเลือดทั้งแขนซ้าย ซึ่งก็ไม่มีที่ให้เจาะแล้ว ต้องมาเจาะที่หลังมือขวาต่อ เส้นเลือดแตกเป็นว่าเล่น ฮ่าๆๆๆ แต่แคลเซียมก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ✌





17-01-2562 :

แต่ครั้งนี้ที่ใส่สายถ่ายเลือดที่คอ ถือว่าเลือดออกน้อยกว่าผ่าครั้งแรกแล้วก็มีอีก...คือ ลิ้นไก่อักเสบจ้า เนื่องจากการใส่ท่อช่วยหายใจ เมื่อวานยังบอกว่ากินข้าวอร่อยอยู่เลย นี่แหละจ้า ฤทธิ์ยาหมดแล้วไง วันนี้กินอะไรไม่ได้เลย กินยายิ่งลำบากมาก ยาฆ่าเชื้อตัวเดิมที่หมอให้คือ "แลนคาฟ" ก็เอาไม่อยู่ เปลี่ยนเป็นยาฉีดก็เอาไม่อยู่แล้ว ต้องเปลี่ยนตัวยาที่แรงกว่าเดิมซึ่งเป็นตัวยาที่กัดกระเพาะไปอีก แต่ก่อนกินยาตัวนี้จะมีตัวเครือบกระเพาะก่อนแล้วตามด้วยยาตัวนั้น เฮ้อ!ค่อยยังชั่ว
คุณหมอให้ยาพ่นในช่องปากมา คล้ายๆแก้ร้อนใน นี่พ่นจนขมคอ 😬



18-01-2562 :

กลับบ้านกันจ้า เย้! กลับมาพักที่บ้านกินอาหารอ่อนไปก่อนเพราะลิ้นไก่ยังไม่หายดี กินจนเอียนข้าวต้มไปข้างนึง แล้วรู้ไหมว่า... การที่คนเราไม่มีไทรอยด์แล้วนั้นมันจะเป็นยังไง เดี๋ยวแป้งจะมาเล่าต่อใน EP.ต่อไปละกัน เพราะมันอาจจะดราม่าได้ ฮ่าๆๆๆๆ 😂 

หลังจากผ่าตัดครั้งที่ 2 ไปแล้วนั้น ก็ล้างแผลทุกวันจนวันที่ถอดไหม หมอก็ชมว่าแผลสวยมาก นี่ก็มอง มันสวยจริงๆ ใช่ไหมนะ? 55555 แผลทั้งแข็ง และเป็นก้อนนูนๆ แดงๆ กดไปยังเจ็บๆ คือลืมเก็บภาพแผลชัดๆ ต้องขออภัยด้วยจ้า



นี่ก็หาตัวช่วยสารพัด เริ่มจากตัวนี้ก่อนเลย มีความเตรียมตัวดีมาก 😄
ถามว่าเห็นผลไหม? น้อยมาก มันใช้เวลานานเกินไป ใช้จนจะหมดหลอดแล้ว 



มีพี่พยาบาลบอกให้ใช้ซิลิโคนปิดแผลดู แผลจะยุบเร็วและไม่เป็นรอยแดง แต่ราคาแพงหน่อยนะ นี่ก็ถามว่าราคาเท่าไหร่คะ? คำตอบคือ 800 กว่าบาท นี่แบบ โค้ววว !! หยังมาแพงแต้ว่า ขอทำใจแปป ทำใจไป 2 เดือน ยังไม่ซื้อมาใช้นะ ช่วงนั้นอากาศหนาวเลยพันผ้าพันคอไปทำงานก่อน บังแผลไปเลยจ้า




และนี่จ้า ยังไปวิ่งกับเดอะแก๊งที่ทำงานได้อยู่ ยังมีแรงอยู่ ยังสดใสได้อยู่ แต่หลังจากนี้จะเป็นไง คอยติดตามได้เลย 5555 จะร่วงหรือรอด





28-01-2562 :

แป้งไปติดต่อเพื่อทำเรื่องกลืนแร่รังสีไอโอดีน ที่ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ โดยมีคุณแม่ไปด้วยเพราะคุณแม่จะรู้จักตึกที่นี่ดีกว่าแป้งนั่นเอง โดยแป้งใช้สิทธิ์ประกันสังคม ครั้งแรกไปติดต่อที่ อาคาร 108 เจอกับคุณหมอทั่วไปก่อน เสร็จแล้วก็ส่งตัวไปที่อาคารศรีพัฒน์ เพื่อพบกับคุณหมอแผนก หู คอ จมูก ซึ่งเป็นคนเดิมกับที่แป้งไปพบตอนเมื่อแป้งมาทำการเจาะชิ้นเนื้อครั้งที่ 2 คือเป็นอะไรที่โชคดีมากเพราะไม่ต้องเล่าอะไรยืดยาวเพราะคุณหมอทราบเคสอยู่แล้ว จากนั้นคุณหมอก็นำส่งให้แป้งไปพบกับคุณหมอเกี่ยวกับต่อมไร้ท่อ (หมอเฉพาะทางไทรอยด์) แต่พยาบาลแจ้งว่าวันนี้คุณหมอไม่เข้านะ ต้องกลับมาใหม่ในวันพรุ่งนี้ 

29-01-2562 :

มาแต่เช้าจ้า มาพบคุณหมอต่อมไร้ท่อ คุณหมอก็ดูแผล และตรวจเช็คคลำต่อมน้ำเหลือง ทุกอย่างปกติ คุณหมอก็ถามกลับว่าตอนนี้ได้เริ่มทานยาฮอร์โมนไทรอยด์หรือยัง แป้งก็ตอบไปว่ายังค่ะ คุณหมอประสานไปยังห้องรังสี เพื่อติดต่อคุณหมอรังสี โดยครั้งนี้จะเป็นการสแกนร่างกายก่อน เพื่อดูว่ามีเชื้อแพร่กระจายไปส่วนไหนของร่างกายหรือไม่ ซึ่งแป้งได้คิวสแกนร่างกายใน วันที่ 4,6 มีนาคม 2562โดยแป้งต้องงดอาหารจำพวกไอโอดีน ชา กาแฟ อาหารทะเล บลาๆ เป็นเวลา 2 สัปดาห์ และต้องงดยาไทรอยด์ก่อนมาตรวจในวันที่ 4 มีนาคม 2562 ตอนนั้นแป้งยังไม่ได้เริ่มทานยา เลยตัดตรงนั้นไป 


เรื่องราวของ EP.3 แป้งขอเขียนไว้เพียงเท่านี้ก่อนนะคะ ยังไงฝากติดตาม EP. ถัดไปด้วยนะ หวังว่าครั้งนี้จะอ่านเพลิน ไม่ดราม่าเกินไปเนาะ ฮ่าๆๆๆ 

ขอบคุณสำหรับการติดตาม และยอมอ่านอะไรก็ไม่รู้ของแป้งนะคะ
ขอพระเจ้าอวยพรจ้า 💕




























วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

[EP.2] ในวันที่ฉันป่วย -- กับวันที่ฉันขึ้นเขียง




หลังจากที่เขียน EP.1 ไปแล้ว วันนี้จะมาต่อเรื่องราวของวันที่แป้งกลัวที่สุด ที่แป้งเขียนทิ้งท้ายไว้ว่า แป้งทราบวันที่จะผ่าตัดแล้ว นั่นก็คือวันที่ 6 มกราคม 2562 ณ โรงพยาบาลแมคคอร์มิค โดยการผ่าตัดครั้งนี้ แป้งได้ผ่าตัดเอาก้อนที่คอออก พร้อมตัดไทรอยด์ด้านขวาออกด้วย




06-01-2562 : 

วันนี้ Admit เพื่อเตรียมตัวสำหรับการผ่าตัดในวันพรุ่งนี้เช้า และเป็นครั้งแรกกับการต้องเจาะน้ำเกลือด้วย แต่ไม่เจ็บอย่างที่คิดเลย ระหว่างวันก็กินขนม กินนู่นนี่นั่นไปเรื่อย เพราะถ้า 21.00 น. ของคืนนี้แป้งต้องงดน้ำ งดอาหารแล้ว อีกสิ่งที่หมอให้ คือยานอนหลับจ้า หมอคงกลัวว่าแป้งจะกังวลจนนอนไม่หลับ ซึ่งมันก็มีความรู้สึกแบบนั้นเข้ามาในหัว จัดไป 1 เม็ด หลับสบายตลอดคืน




07-01-2562 : 

เช้าวันนี้ก็มาถึงแล้ว ตื่นมาก็ล้างหน้าแปรงฟัน อาบน้ำ สระผม เตรียมเปลี่ยนชุดสีเขียวเพื่อเตรียมตัวย้ายไปห้องผ่าตัด สักประมาณ 9.00 น. ก็มีพยาบาลพาแป้งไปที่ห้องผ่าตัด พอถึงห้องผ่าตัด พยาบาลที่ห้องผ่าตัดก็ถามข้อมูลต่างๆ ตามลิสของเขา จากนั้นประมาณ 10.00 น. แป้งก็ถูกย้ายไปยังห้องผ่าตัด โอ้โห! เคยเห็นแต่ในละคร ที่จะมีไฟเยอะๆ ตอนนั้นแป้งถูกพันแขนให้ตัวยึดติดกับเตียง แขนข้างซ้ายมีเครื่องวัดความดันพันอยู่ คราวนี้แหละ หมอที่เค้าวางยาสลบก็เดินเข้ามา มาพูดคุยกับเรา ให้เรารู้สึกผ่อนคลายสักแปปนึง จากนั้นหมอก็นับ 1 2 3 แล้วฉีดยาสลบเข้าทางสายน้ำเกลือ พอยาเข้าเส้นเลือดปุ๊บ นี่ภาพตัดเลยจ้า สลบยาว ตื่นมาอีกทีน่าจะประมาณบ่ายโมง ลืมตาขึ้นมาคืองงมากว่าอยู่ที่ไหน มีพี่พยาบาลมาคุยด้วยว่าเป็นไงบ้าง เจ็บไหม? นี่ก็พอพูดไหว เลยบอกไปว่าเจ็บในคอ คอแห้ง จากนั้นนแป้งก็ถูกย้ายมาที่ห้องพักฟื้น สติยังอยู่ครบ ไม่เบลอ ยังคุย ยังทักทายพ่อแม่ และเพื่อนๆ ที่มารอเยี่ยมได้ 


สายที่คอนั่นคือสายที่เอาไว้ถ่ายเลือดที่ยังคงค้างจากการผ่าตัด เลือดออกเยอะเอาการเลย เวลาจะลุกต้องคอยพยุงหัวตัวเองขึ้น เพราะรู้สึกหนักตรงหลังหัวมาก เหมือนไม่ค่อยมีแรง และจะรู้สึกเจ็บคอตอนทานอาหารอยู่บ้างเพราะตอนผ่าตัดได้ใส่ท่อออกซิเจนด้วย ตกเย็นมาไข้ขึ้น อาจจะเพราะพิษบาดแผล แต่การผ่าตัดก็ผ่านไปได้ด้วยดีจ้า



08-01-2562 : 

อาการเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ เลือดที่ถ่ายออกก็ยังคงมีอยู่แต่ไม่มากเท่าวันแรกจ้า ขออภัยในความแต้มสิวของนุ้ง 55555 ในส่วนของวันนี้ สามารถเดินเอง อาบน้ำเองได้แล้วจ้า





09-01-2562 : 

วันนี้เตรียมตัวกลับบ้านแล้วจ้า เอาสายถ่ายเลือดออกแล้ว ก่อนกลับคุณหมอก็มาดูแผล มาล้างแผลให้ คุณหมอบอกว่าแผลดีนะ แผลสวย นี่ก็เชื่อใจหมอนะ แต่ก็กังวลเรื่องแผลเป็น คุณหมอนัดให้มาล้างแผลทุกวัน และให้พักอยู่บ้านต่ออีกประมาณ 4 วัน คุณหมอแจ้งว่าผลชิ้นเนื้อน่าจะออกประมาณวันที่ 14-01-2562 ในใจลุ้นมาก ขอให้ผลออกมาดี

 
13-01-2562 : 

ส่วนวันนี้ คือ วันอาทิตย์ วันที่แป้งไปโบสถ์ตามปกติ พอพักเที่ยง มีโทรศัพท์ดังขึ้นเป็นเบอร์แปลก นี่ก็รับสายปกติ ในสายนั้นคือคุณหมอเจ้าของไข้แป้งเอง คุณหมอแจ้งว่า ตอนนี้ผลชิ้นเนื้อออกแล้วนะ คือคุณหมอตื่นเต้นมาก แล้วค่อยๆคุยกับแป้งอย่างใจเย็น แต่แป้งนี่สิ ตั้งสติแทบไม่ทัน มือสั่นไปหมด เพราะผลออกมาไม่ได้ดีอย่างที่คิดไว้ ผลสรุปคือ แป้งเป็นมะเร็งไทรอยด์ ชนิด Papillary ใจนี่วาบเลย เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นมะเร็งแล้วอะไรก็ดูจะแย่ไปหมด หลังจากคุณหมอวางสาย แป้งก็ขอให้แฟนรีบพาแป้งไปพบคุณหมอที่โรงพยาบาลทันที เพื่อพูดคุยและหารือว่าควรจะรักษายังไงต่อไป 

โดยคุณหมอแนะนำว่าไว้ 2 ทาง คือ 

1) นำชิ้นเนื้อนี้ส่งไปที่ รพ. มหาราชนครเชียงใหม่เพื่อให้เขาตรวจอีกทีได้ เพราะบางทีเจ้ามะเร็งชนิดนี้สามารถแตกย่อยชนิดออกมาได้อีกโดยคุณหมอจะทำการเขียนไปส่งตัวให้ 

2) ผ่าตัดเอาไทรอยด์อีกข้างที่เหลือออกไปเลย เพื่อจะได้รักษาในขั้นต่อไป เพราะหากมีไว้ จะสามารถกลับมาเป็นได้อีก มะเร็งชนิดนี้มักจะลามไปยังต่อมน้ำเหลืองได้ แต่ไม่ต้องห่วงเพราะมะเร็งชนิดนี้สามารถรักษาให้หายได้ เพียงแค่ถ้าตัดไทรอยด์อีกข้างออก จะต้องทานฮอร์โมนทดแทนไปตลอดชีวิต

คุณหมอชี้ให้ 2 ทาง แป้งจึงใช้ความคิดหนักมาก เพราะพอคุณแม่ทราบแล้ว คุณแม่ก็แอบน้ำตาซึมเพราะไม่คิดว่าแป้งจะต้องมาเจออะไรแบบนี้ แม่ก็บอกว่าสงสารลูก แป้งเองก็สงสารตัวเอง มีแต่ความคิดลบๆ ว่าทำไมต้องเป็นเราด้วย ไม่เป็นเราไม่ได้เหรอ เราผิดอะไรทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ ยอมรับว่าร้องไห้ แต่ให้แค่แฟนเห็นนะ เพราะไม่อยากให้แม่คิดมาก 

แต่แป้งก็ได้รับกำลังใจที่ดีมากๆ จากเพื่อนๆ ที่ทำงาน จากพี่ๆ ที่โบสถ์ ทุกๆ คำอธิษฐานที่ทุกคนอธิษฐานเผื่อแป้ง ช่วยแป้งได้เยอะมาก เรื่องราวยังไม่จบเพียงเท่านี้ แป้งจะขอเขียนเพิ่มใน EP. ถัดไปจากนี้อีกครั้งนี้นะคะ




ขอบคุณสำหรับการติดตามจ้า
ขอพระเจ้าอวยพระพร 💕